ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “Cookie” ของเว็บไซต์ต่างๆ

Cookie" ของเว็บไซต์ต่างๆ

ทุกครั้งที่เราได้ทำการท่องเว็บไซต์ต่างๆ นั้น มักจะมีขึ้น pop-up เกี่ยวกับข้อมูลขอทำการเก็บหรือสังเกตพฤติกรรมการใช้งานคอมพิวเตอร์ขึ้นมาให้ฉงนกัน ซึ่งโดยเฉพาะเรื่องของการสำรองข้อมูลด้วยระบบ “Cookie” เป็นอะไรที่ต้องทำความเข้าใจพอสมควรเลยหล่ะครับ วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ให่ไปพบกับ “ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “Cookie” ของเว็บไซต์ต่างๆ” จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปดูกันดีกว่าครับ

ระบบ Cookie ของเว็บไซต์คืออะไร?

Cookie เป็นไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่ได้จากการเชื่อมต่อระหว่างเว็บไซต์และคอมพิวเตอร์ เป็นเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 โดยคุกกี้มีหน้าที่จดจำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งโลเคชั่นของผู้ใช้งาน หรือข้อมูลที่ผู้ใช้งานสนใจเพื่อนำไปใช้ทำการตลาดโฆษณษแบบเจาะกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งถือเป็นการจัดเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องมีการขอความยินยอม (Consent) จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเสมอ

โดยคุกกี้ถูกแบ่งย่อยออกเป็นหลายประเภท ดังนี้

●Session cookies เป็นหน่วยความจำชั่วคราว ซึ่งจะบันทึกความเคลื่อนไหวที่เกิดบนหน้าเว็บไซต์
●First-Party Cookies เป็นคุกกี้ที่ทำหนน้าเหมือนหน่วยความจำระยะยาวของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าเมนูบนเว็บ, ธีม, ภาษาที่เลือก หรือ Bookmark เป็นต้น
●Third-Party Cookies ทำหน้าที่แค่คอยติดตามความเคลื่อนไหว ดูพฤติกรรมการออนไลน์ และลักษณะการใช้จ่ายของเรา โดยมักนำมาใช้ในการทำการตลาด เพื่อเพิ่มยอดขายและยอดเพจวิว
●Secure Cookies เป็นคุกกี้ที่ช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญของเราไม่ให้ถูกดักระหว่างที่มีการรับส่งข้อมูล
●HTTP-Only Cookies มักจะทำงานร่วมกับ Sucure Cookies เพื่อป้องกันการถูกโจมตีด้วยวิธี Cross-site scripting
●Flash Cookies เป็นคุกกี้ท่าที่เปลี่ยนแปลงข้อมูลของผู้ใช้ได้ จึงมักถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด
●Zombie Cookies เป็นคุกกี้ที่สามารถสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ได้ (เมื่อ Back up)●Same-site Cookies เป็นคุกกี้แบบใหม่ ทำให้มีความปลอดภัยค่อนข้างมาก โดยจะมีการควบคุมการรับส่งคุกกี้ระหว่างเว็บไซต์ต่างๆ

ประโยชน์ของการใช้งานระบบ Cookie

ฝ่ายสามารถใช้ข้อมูลที่ได้จากการเก็บ Cookie เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า โดยจดจำทุกอย่างที่คนเยี่ยมชมเว็บไซต์ทำ เช่น สินค้าที่หยิบใส่ตะกร้า ลิงก์ต่างๆ ที่สนใจและเข้าชม ระยะเวลาที่อยู่ในเว็บไซต์ หน้าไหน เรื่องอะไรที่สนใจให้ความสำคัญ

อันตรายจากการเก็บข้อมูลหรือระบบ Cookie ของเว็บไซต์ทีน่ารู้

Cookie ก็คล้ายกับสปายแวร์แอบเก็บข้อมูลของเราเพื่อส่ง junk-mail หรือ pop-up โฆษณา และเสี่ยงบัญชีโดนสวมลอยบัญชี Cookies ยังกินพื้นที่ในเครื่องด้วย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยควรจัดการ Cookies ให้เรียบร้อยทุกครั้ง เพื่อป้องกันเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องครับ

วิธีล้างแคชหรือคุกกี้ของ Google chrome

●เปิด Google Chrome
●เปิดแอป Chrome Chrome ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android
●ที่ด้านขวาบน ให้แตะ “เพิ่มเติม” เพิ่มเติม
●แตะประวัติการเข้าชม จากนั้น ล้างข้อมูลการท่องเว็บ
●เลือกช่วงเวลาจากด้านบน หากต้องการลบทุกอย่าง ให้เลือกตั้งแต่เริ่มต้น
●เลือกช่องข้างๆ “คุกกี้และข้อมูลเว็บไซต์” และ “รูปภาพและไฟล์ที่แคชไว้”
●แตะล้างข้อมูล เพียงเท่านี้ก็สามารถลบคุกกี้ได้แล้วหล่ะครับ

2 วิธีทำให้เครื่องคอมเราหายอืด

●ปิดใช้งานเอฟเฟกต์พิเศษที่ไม่จำเป็น แท็บ Visual Effects ใน Performance Options จาก Windows 10 จะมาพร้อมกับเอฟเฟกต์พิเศษหลายตัวให้เลือกใช้ เพื่อให้ดูโดดเด่นและสะดุดตา เอฟเฟกต์เหล่านี้ติดตั้งมาสำเร็จกับ Windows และคุณสมบัติการทำงานอื่น ๆ ที่ใช้แสดงผลหรือเปลี่ยนภาพเมื่อเปิดเครื่อง คุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ ที่อาจทำให้เครื่องช้าลงยังได้แก่การปรับค่าความโปร่งแสงและใส่แอนิเมชั่นต่างๆ

●รีสตาร์ท PC อาจฟังดูไม่ยาก แต่การรีสตาร์ท PC เป็นระยะ ๆ จะทำให้เครื่องทำงานได้เร็วขึ้น หลายคนเปิด PC ค้างไว้เป็นสัปดาห์ โดยให้คอมพิวเตอร์เข้าโหมดสลีปแทนการปิดเครื่อง วิธีการนี้ทำให้โปรแกรมและส่วนการทำงานต่าง ๆ ค้างอยู่ในหน่วยความจำของ PC ทำให้การทำงานช้าลง ไม่ว่าจะเป็นการเรียกใช้โปรแกรมหรือสืบค้นไฟล์การปิด PC ทุกๆ วันจะทำให้ PC ของคุณรีเฟรชหน่วยความจำและพร้อมสำหรับการทำงานในวันถัดไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ หากคุณพบว่า PC ทำงานช้าสำหรับงานทั่ว ๆ ไป เช่น การเปิดโปรแกรมหรือสืบค้นไฟล์และเอกสาร ให้ลองปิดหรือรีสตาร์ท PC ดูก่อน อย่าลืมบันทึกงานของคุณก่อนปิดหรือรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “Cookie” ของเว็บไซต์ต่างๆ” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้นนี้ หวังว่าจะเป็นแนวทางที่ดีไม่มากก็น้อยกันนะครับ

You Might Also Like