Writing Tips ที่จะทำให้คุณปลื้มผลคะแนนการสอบเขียน IELTS

Writing Tips ที่จะทำให้คุณปลื้มผลคะแนนการสอบเขียน IELTS

      การสอบ IELTS เอาจริงๆไหม  ถ้าไม่พูดแบบโลกสวยหรือพยายามพูดให้ตัวเองรู้สึกดี ก็ต้องบอกว่ายากทุกการทดสอบในทุกทักษะ แต่จะทำไงได้เราก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ด้วยคะแนนที่เราต้องการ เอาล่ะ เราจะไม่บ่น แต่เราจะขยัน ขยัน ขยัน !!!!! และเพื่อให้ความขยันของเราเกิดผลได้ดีขึ้น มันต้องเอามารวมกับเทคนิคนิดๆหน่อยๆ เรียกว่าเป็น Tip ในการทำข้อสอบ และวันนี้ขอนำเสนอ Writing Tips ที่จะทำให้คุณปลื้มผลคะแนนการสอบเขียน IELTS  มาอย่ารอช้า มาลุยกันเลย

Writing Tips ที่จะทำให้คุณปลื้มผลคะแนนการสอบเขียน IELTS

  1. ก่อนที่จะเขียนตอบอ่านคำถามหรือประเด็นที่โจทย์ให้มาดีๆ เพราะนี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุดและเป็นจุดเริ่มต้นลำดับแรกของการทำข้อสอบเขียน อาจจะขีดเส้นใต้คำถามไว้ก็ได้เผื่อลืม และต้องจำไว้ว่าคำตอบของคำถามที่เราจะเขียนลงไปในเรียงความนั้น ต้องมาจากความรู้ ความคิดเห็นของเราเท่านั้น
  2. อย่าเข้าใจผิดว่า การลอกเอาข้อคิดหรือทฤษฎีอื่นๆ มาเขียนจะทำให้ได้คะแนนเยอะ หากจำเป็นต้องกล่าวถึงต้องทำการอ้างอิงด้วย ไม่อย่างนั้นจะทำให้เราเสียคะแนนไปโดยใช่เหตุ
  3. คิดก่อนเขียน เมื่ออ่านโจทย์และเข้าใจดีแล้วหยุดคิดก่อนว่าจะนำเสนออะไรในคำตอบของเรา ใช้เวลาสัก 2 -3 นาทีในการคิด แล้วเราจะรู้ว่าควรจะเริ่มและจบการเขียนของเราอย่างไร
  4. ไม่ควรใช้เวลาเกิน 15-16 นาที สำหรับการเขียนคำตอบใน IELTS Writing Task 1 เพราะเราต้องใช้เวลาอ่านทวนด้วย และที่สำคัญคือเรายังต้องเขียนต่อใน Task 2 อีก ซึ่งไม่ควรจะใช้เวลาเกิน 20 นาที จึงควรเขียนเท่าที่โจทย์กำหนด
  5. เขียนเยอะๆ แล้วจะได้คะแนนเยอะๆ บอกเลยว่าไม่จริง เพรามันเหมือนขาดโฟกัส จะทำให้คะแนนเสียไปเปล่าๆมากกว่า ดังนั้นในส่วนของการเขียนรายงานข้อมูล (Task 1) ควรจำกัดจำนวนคำอยู่ที่ 160 ถึง 200 คำ และในส่วนของเรียงความ (Task 2) จำนวนคำที่แนะนำ คือ 260 ถึง 320 คำ
  6. ใช้คำที่หลากหลาย เช่น การเลือกใช้คำที่มีความหมายเหมือนกันหรือตรงกันข้าม โดยไม่ซ้ำคำแต่คำเดียวไปมาตลอดทั้งเรื่อง จะทำให้เรื่องที่เขียนน่าสนใจขึ้นและมีสิทธิ์ได้คะแนน สูงถึง band 6.0 เลยนะ
  7. อย่าลอกโจทย์คำถามทั้งหมดลงในคำตอบ ใครทำแบบนี้มาอยากจะตีมือจริงๆผู้ตรวจข้อสอบจะไม่นับคะแนนให้และแน่นอนถูกหักคะแนนแน่ๆ
  8. รู้ไว้ด้วยว่า Task 1 คะแนนจะเท่ากับ 1 ใน 3 เท่านั้น ในขณะที่ Task 2 คะแนนเป็น 2 ใน 3 เช่น ถ้า Task 1 = 6.5 ส่วน Task 2 = 6.0 จะได้ Overall band score = 6.0 แต่ถ้า Task 1 = 6.0 ส่วน Task 2 = 6.5 จะได้ Overall band score = 6.5  จึงควรทำคะแนน Task 2 ให้ดี
  9. ตรวจทานข้อสอบเสมอ ในส่วนไวยากรณ์, คำศัพท์ที่ใช้, ความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันของประเด็นที่นำเสนอและตรวจด้วยว่า เราตอบคำถามที่โจทย์ถามได้ถูกต้องตรงประเด็นไหม?
  10. ภาพรวมของงานเขียนต้องสร้างความประทับใจให้ผู้ตรวจข้อสอบทั้งเรื่องของเนื้อหา และความเป็นระเบียบของการเขียน

 

You Might Also Like